วิธีการเลือกซื้อจักรยาน BMX ความคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง

 

หากคุณกำลังวางแผนที่จะซื้อจักรยาน BMX ซักคันหนึ่ง มันมีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกจักรยานประเภทนี้ อันดับแรกที่ที่เราจะต้องทำคือการมองหาร้านที่ใช่สำหรับเรา ตัดพวกห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่างพวก Big C หรือ โลตัส ไปได้เลย ที่นี่ขายเฉพาะจักรยานที่ใช้ปั่นทั่วไปในเมือง อย่างหรูหน่อยก็อาจมีเสือภูเขาขายบ้างเป็นบางสาขา ถ้าคุณอยากที่จะหาเพื่อนคู่ใจเพื่อนำไปลุยในสนามจริงๆ ให้มองหาร้านค้าที่มีชื่อเสียงข้างนอก ซึ่งที่นี่เจ้าของร้านจะแนะนำตั้งแต่การเลือกจักรยานให้ ไปจนถึงคำแนะนำต่างๆ ที่คุณจำเป็นต้องรู้ใน

ปัจจุบันนี้จักรยาน BMX มีความแพร่หลายเป็นอย่างมาก มีบริษัทที่ผลิตจักรยานเหล่านี้ออกมาจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 50 แบรนด์ ดังนั้นการที่จะเลือกให้เหมาะสมคุณจำเป็นจะต้องทำการบ้านซักหน่อย เพื่อหาว่าผู้ผลิตรายไหนออกแบบจักรยานได้ตอบโจทย์คุณมากที่สุด ถ้าหากคุณไม่มีความรู้ในด้านนี้เลยก็ให้ไปที่ร้านค้า ผู้ขายส่วนใหญ่มักจะมีความรู้เกี่ยวกับจักรยานที่พวกเขานำมาขายดีอยู่แล้ว ซึ่งเข้าจะให้คำตอบกับคุณได้

เลือกตามสไตล์การปั่นของคุณ

1.Park Bikes เป็นจักรยานที่คล้ายกับ Street freestyle แต่มียางที่ยืดหยุ่นกว่ามาก มีระบบเบรกคู่กับเพลาที่ขนาดเล็กกว่า ด้วยการทำแบบนี้ทำให้จักรยานมีน้ำหนักที่เบามากเป็นพิเศษ เรียกได้ว่ามีน้ำหนักน้อยกว่าจักรยานประเภท Street หรือ Dirt bikes อยู่มากเลยทีเดียว

2.Street Bikes เป็นรุ่นที่สมบุกสมบันขึ้นมาหน่อย มีคุณสมบัติในการรับแรงกระแทกได้ดีเมื่อตกจากที่สูง จักรยานประเภท Street เป็นที่รู้กันดีว่ามันทนทานและแข็งแรงกว่าพวก Park หรือ Dirt Bikes เป็นอย่างมาก พวกมันสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่เมื่อปั่นบนพื้นผิวที่ราบอย่างพื้นถนนหรือในสนาม

3.Dirt Bikes จักรยานประเภทนี้จะมีดอกยางที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะตัว เพื่อสร้างแรงยึดเกาะที่พิเศษ รวมถึงความคล่องแคล่วที่จะควบคุมได้ง่ายในสภาพพื้นผิวที่ขุระขระ จักรยานประเภทนี้ค่อนข้างคล้ายกับ Park Bikes หรือ Street Bikes ซึ่งส่วนใหญ่หลายคันมักจะถอดเอาเบรกออกเพื่อเพิ่มความคล่อง และหลีกเลี่ยงการติดสายยาวจนเกะกะ

ชิ้นส่วนและส่วนประกอบ BMX

ส่วนประกอบ BMX อาจมีราคาเริ่มต้นจากถูกไปแพงมากตามคุณภาพ ถ้าเลือกชิ้นส่วนที่เป็นแบรนด์เนม (เช่น Odyssey และ Shadow ฯลฯ ) จะเพิ่มทั้งคุณภาพและราคามากกว่าของทั่วไปที่หาได้ตามร้าน ไม่ว่าจะเป็น เฟืองเกียร์ขนาดเล็กหรือเฟืองด้านหน้าที่น้ำหนักเบา ต่างก็เป็นคุณสมบัติที่ดีที่ควรจำเอาไว้เมื่อเลือกซื้อจักรยาน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรมองเป็นอันดับแรกคือเฟรมของจักรยานที่มีอยู่หลายชนิด แต่ละชนิดก็มีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

1.อลูมิเนียม (Aluminum)ถ้าต้องการจักรยานสำหรับแข่งขันจะต้องเลือกวัสดุที่มีทั้งความแข็งแรง ทนทาน ยืดหยุ่น และน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ อลูมิเนียมถือเป็นวัสดุที่ตอบโจทย์นี้ได้ทั้งหมด

2.เหล็ก (Steel)เฟรมเหล็กพบได้มากที่สุดในจักรยานทุกประเภท มันมีความยืดหยุ่นและทนทานสูงมากเป็นพิเศษ สามารถรับแรงกระแทกได้ดี แต่ข้อเสียคือมันเป็นวัสดุที่ค่อนข้างหนักกว่าเพื่อน ถ้าเกิดว่าคุณกำลังมองหาจักรยานเอาไว้ใช้แข่งจริงจังขอให้ตัดข้อนี้ทิ้งไปได้เลย

3.คาร์บอนไฟเบอร์ (Carbon Fiber) คาร์บอนไฟเบอร์ถือเป็นวัสดุที่มีความเบามากที่สุดในกลุ่ม แต่ยังคงมีความแข็งแรงอยู่ไม่น้อยเลย น่าเสียดายที่มันมีราคาที่ค่อนข้างแพงมาก หากเรื่องงบไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ การเลือกจักรยานที่ทำจากเฟรมคารบอนถือเป็นคำตอบที่ดีในทุกการใช้งาน

4.โครโมลี (Chromoly) จักรยาน BMX คุณภาพสูงสมัยใหม่เดียวนี้มาพร้อมกับเฟรมแบบ ‘โครโมลี’ เป็นวัสดุที่ผสมผสานระหว่างโครเมี่ยม (Chromiume) กับ โมลิบดินัม (Molybdenum) ทำให้กลายเป็นเหล็กกล้าโลหะผสมแรงดึงสูงที่ทนทานมากขึ้น