จักรยานนําเข้าจากญี่ปุ่น มือ 2 ดีหรือไม่

‘จักรยานนําเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มือ 2’ ผ่านการขนส่งมาจากทางเรือส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น เป็นการไปเหมาซื้อจักรยานจากผู้ค้าใส่มาในตู้คอนเทนเนอร์ หลังจากนั้นเมื่อถึงประเทศไทย ก็นำมาคัดสภาพ ล้างทำความสะอาด และนำมาวางขายให้แก่คนรักจักรยาน

จักรยานนําเข้าจากญี่ปุ่น มือ 2 มีความน่าสนใจอย่างไร ?

สำหรับนักปั่นส่วนใหญ่ในประเทศไทย ที่รักรถจักรยานญี่ปุ่นมีมากมายหลายรูปแบบ โดยบางคนชอบของเก่า อยากได้รถแบบเดิมๆ ไม่มีการดัดแปลง หากแต่บางคนก็ชอบด้วยเหตุผลที่ว่า รูปร่างของจักรยานเหล่านี้มีความ Vintage มีความเก๋ซึ่งหาไม่ได้ในจักรยานรุ่นใหม่ บางคันมี 3 ล้อ ซึ่งก็ดูแปลกตาเพราะในประเทศไทยหาไม่ค่อยได้ หากแต่บางคนก็ชอบเพราะมีรูปแบบรถที่ไม่ซ้ำกัน ทำให้มีตัวเลือกเยอะ เลือกได้อย่างเพลินๆ ในปัจจุบันนี้จักรยานญี่ปุ่น กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเมื่อก่อน ที่การขี่จักรยานอาจเป็นเพียงแค่เทรนด์เก๋ๆ หากแต่ ณ ตอนนี้ในชีวิตของใครหลายคนๆจักรยาน ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว โดยคุณสามารถไปไหนมาไหนได้ด้วยจักรยาน จึงทำให้ผู้คนที่มีใจรัก สามารถเลือกซื้อจักรยานกันเป็นมากขึ้น อย่างเช่น เลือกซื้อของดีที่มีราคาสมเหตุสมผล

ในปัจจุบันมีจักรยานญี่ปุ่นมือ 2 เกรด A ให้เลือกเป็นร้อยๆคัน ไม่ว่าจะเป็นจักรยานพับพกพาที่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ราคาเริ่มต้น 2,000 – 4,000 บาท หรือถ้าคุณอยากได้จักรยานพับที่มียี่ห้อราคาก็จะสูงกว่า โดยจักรยานพับยี่ห้อ Chevrolet มือ 1 มีราคาอยู่ที่ 8,900-9,500 บาท , จักรยาน Vintage สไตล์แม่บ้านมีตะกร้าใส่ของ มีราคาอยู่ที่ 2,000-5,000  บาท , จักรยานเสือภูเขา ราคาเริ่มต้น 3,500 บาท แต่ถ้าทำจากอะลูมิเนียมราคาจะแพงขึ้นจนถึง 10,000 บาท จักรยาน Touring ราคา 4,000-10,000 บาท จักรยาน 3 ล้อ เริ่มต้น 5,000 -10,000 บาท  จักรยานเสือหมอบ ราคา 6,000- 10,000 บาท โดยราคาขึ้นอยู่กับสภาพความใหม่และเก่า ถ้าเป็นรถจักรยานโบราณ แต่มีสภาพดีราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นจักรยานแม่บ้านเก่าญี่ปุ่น มีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก ถ้าสามารถหาจักรยานดีๆได้ มาพร้อมเกียร์มีดุมปั่นไฟได้ยิ่งน่าใช้งานมาก ถ้าคุณหาแหล่งซื้อดีๆได้ อาจจะเจอคันละต่ำสุด 2,000 บาทเท่านั้น

เคล็ดไม่ลับในการเลือกจักรยานมือ 2 จากประเทศญี่ปุ่น

อันดับแรกให้คุณปั่นจักรยานทางตรง , ซิกแซก , ตีวงกลม พร้อมกับเช็กเกียร์ , เบรก , ยาง , ลองเบรก ไปด้วย และสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เช็กสภาพภายนอก รอยบุบของตัวถังและชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้ดีก่อนจ่ายเงิน ถ้าคุณรับสภาพได้กับราคาที่เหมาะสมก็จัดได้เลย