จักรยานMotocross (BMX) มีจุดเริ่มต้นในปลายปี 1960 ณ รัฐ California จนมันกลายมาเป็นกีฬาซึ่งได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา เป็นความเร็วอันผนวกเข้ากับความหวาดเสียวได้รับความนิยมในหมู่เด็กและวัยรุ่น กีฬาชนิดนี้สามารถดับความกระหายของพวกเขาโดยการแข่งขันจักรยานบนลู่ที่สร้างขึ้นเอง
การแข่งขัน BMX ได้แสดงให้เห็นถึงการแสดงอันน่าตื่นเต้น มีค่าใช้จ่ายต่ำ สามารถเล่นใกล้บ้านได้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมมันจึงกลายเป็นกีฬายอดนิยมในชั่วพริบตา โดยเฉพาะใน รัฐ California มันเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากกว่าสถานที่อื่นใด ในช่วงต้นปี 1970 องค์กรที่ออกมารับรองกีฬา BMX ถูกตั้งขึ้นในสหรัฐอเมริกา มันเป็นการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของการแข่งขัน BMX ขณะเวลาได้ล่วงเลยไป กีฬาชนิดนี้ก็ได้แพร่ไปยังทวีปอื่นๆด้วย และได้รับความนิยมในทวีปยุโรปปี 1978 ในเดือนเมษายน 1981 สหพันธ์ BMX ระหว่างประเทศถูกก่อตั้งขึ้น หลังจากนั้นการชิงแชมป์โลกครั้งแรกก็ถูกจัดขึ้นในปี 1982 BMX ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วในฐานะกีฬาอันมีเอกลักษณ์รวมทั้งเป็นหนึ่งเดียวของโลก
รายการแข่งขันจักรยาน BMX ที่น่าสนใจจากต่างประเทศ
BMX Supercross
เป็นส่วนหนึ่งของรายการกีฬาที่ถูกบรรจุในการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกด้วย BMX Supercross จะแข่งขันกันบนสนามความยาว 350 เมตร นักขี่ 8 คนจะเริ่มส่งตัวเองลงจากทางลาดสูงขนาด 8 เมตร ระหว่างการแข่งขันจะเจอลู่ซึ่งทั้งสลับกระแทกไปมา เจอทั้งบริเวณลาดเอียงและบริเวณเป็นที่ราบ แน่นอนว่ามันเป็นการต่อสู้อันแสนดุเดือด เพราะต้องจบใน 4 อันดับแรกของรอบคัดเลือก ถึงจะได้เข้ารอบต่อไป ส่วนในรอบชิงชนะเลิศก็ขึ้นอยู่กับการกำหนดเส้นทางของแต่ละส่วน นักขี่ BMX ทั้งหลายต้องพยายามเพิ่มทั้งความเร็ว ควบคุมตัวให้ดี ถ้าเจอเนินสูงบางครั้งนักขี่อาจลอยตัวขึ้นสูงเกือบ 5 เมตร ก็มี
กติกาการแข่งขัน
- หากมีนักกีฬาในรุ่นใดสมัครเข้าร่วมการแข่งขันระหว่าง 5 – 8 คน จะจัดการแข่งขัน 3 โมโต และนักกีฬาที่ทำคะแนนรวมจากทั้ง 3 โมโตน้อยที่สุด จะได้รับตำแหน่งชนะเลิศในการแข่งขันรุ่นนั้นๆไปครอง
- รุ่นใดมีนักกีฬาตั้งแต่ 9 คนขึ้นไป จะจัดการแข่งขันตามแบบ UCI
- กรณีมีนักกีฬาไม่ถึง 5 คนในรุ่นใดก็ตาม ผู้ตัดสินจะเป็นผู้พิจารณารวมรุ่นไปร่วมแข่งขันกับรุ่นที่มีศักยภาพมากกว่า และนับผลการแข่งขันประจำสนามในรุ่นนั้นๆ แต่อย่างไรก็ตามจะยังให้สิทธิในการคิดคะแนนสะสมแยกตามรุ่นเดิม
- การแข่งขัน MTB Supercross เป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออก จัดนักกีฬาเป็นกลุ่มๆ ละไม่เกิน 8 คน เพื่อเฟ้นหาหานักกีฬาเข้าชิงชนะเลิศ 8 คน แต่ถ้ามีนักกีฬาลงทะเบียนเข้าร่วมน้อยกว่า 5 คน จะยกเลิกการแข่งขันในสนามนั้น